สัมภาษณ์พิเศษ แฟรงค์ แลมพาร์ด

แฟรงค์ แลมพาร์ด

สัมภาษณ์พิเศษ แฟรงค์ แลมพาร์ด : “ผมอยากพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นตลอดเวลา มันคือแรงผลักดันที่ดีที่สุด”

จากตำนานนักเตะเชลซี สู่กุนซือผู้คืนชีวิตให้โคเวนทรี “ข้อเท้าผมบวมหน่อย ดูได้เลย” แฟรงค์ แลมพาร์ด ยิ้มกว้าง พร้อมชี้ไปที่ขาขวาของเขา หลายคนอาจคิดว่ามันเกิดจากการซ้อมฟุตบอลกับนักเตะในสนาม แต่เจ้าตัวเล่าว่าจริง ๆ แล้วมาจาก “การเล่นฟุตบอลกับลูก ๆ ที่ไฮด์พาร์ควันอาทิตย์”

คำพูดนี้สะท้อนบุคลิกของแลมพาร์ดได้อย่างดี คนที่มีฟุตบอลอยู่ในสายเลือดตั้งแต่เด็ก เขาเคยถูกแม่เตือนเพราะใส่รองเท้าสตั๊ดนอน และเคยใช้วันหยุดสุดสัปดาห์อยู่กับ แฮร์รี่ เรดแนปป์ ลุงของเขา เพื่อเรียนรู้วิธีเป็นนักฟุตบอลอาชีพ

จากเด็กฝึกของเวสต์แฮม สู่กองกลางระดับตำนานของเชลซี ที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก แชมเปียนส์ลีก และติดทีมชาติอังกฤษกว่า 100 นัด วันนี้แลมพาร์ดวัย 47 ปี กลับมาสู่เวทีโค้ชอีกครั้งในฐานะผู้จัดการทีม โคเวนทรี ซิตี้ ผู้นำจ่าฝูงแชมเปียนชิพฤดูกาลนี้

สไตล์โค้ชที่อยู่กลางสนามเสมอ

“ผมเชื่อว่าผู้จัดการทีมที่ดีควรอยู่กลางสนามกับลูกทีมเสมอ” แลมพาร์ดกล่าว
“ผมเคยไปดูการซ้อมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา, เอ็ดดี ฮาว และโธมัส แฟรงค์ พวกเขาทุกคนสื่อสารตรง ๆ ในสนามทันที ผมเองก็อยากเป็นแบบนั้น — โค้ชที่เข้าถึงนักเตะได้ตลอดเวลา”

สำหรับแลมพาร์ด ฟุตบอลไม่ใช่การยืนสั่งข้างสนาม แต่คือการลงมือจริงในทุกจังหวะ เขายังคงกระตือรือร้นเหมือนตอนเป็นนักเตะ และเชื่อว่าความใกล้ชิดกับผู้เล่นคือกุญแจสู่ความสำเร็จ

จากความทรงจำในครอบครัว สู่งานเพื่อสังคม

ก่อนเริ่มสัมภาษณ์ แลมพาร์ดเพิ่งเสร็จสิ้นกิจกรรมของมูลนิธิสโมสรโคเวนทรีที่ช่วยผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม เขากล่าวอย่างซึ้งใจว่า “คุณยายของผมเป็นโรคนี้ตอนผมยังเด็ก มันยากมากในตอนนั้น ผมเข้าใจดีว่าครอบครัวแบบนั้นต้องผ่านอะไรมาบ้าง”

โคเวนทรีทีมจ่าฝูง กับสไตล์การเล่นที่ “เร็ว ดุดัน และมั่นใจ”

โคเวนทรีในยุคแลมพาร์ดคือทีมที่ยิงประตูมากที่สุดใน 4 ลีกของอังกฤษตอนนี้ โดยทำไปแล้ว 39 ประตูจากผู้เล่นถึง 10 คน ซึ่งมากกว่าช่วงที่ทีมตกชั้นไปลีกทูในปี 2017 ถึงสองเท่า

“ทีมตอนนี้เริ่มมีเอกลักษณ์ในแบบที่ผมต้องการ”
“เราพยายามสร้างทีมที่เต็มไปด้วยพลังและสปีด ผมอยากให้ทีมเล่นเกมรุกเร็ว ไล่เพรสไว และสนุกกับการชิงบอลกลับมา”

หลังพาทีมรอดตกชั้นในปีแรก แลมพาร์ดใช้เวลาเพียงหนึ่งปีในการพลิกทีมให้กลายเป็นจ่าฝูง โดยในเกมล่าสุดที่ชนะเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เขามีแต้มมากกว่าทีมที่ได้เลื่อนชั้นในฤดูกาลก่อน ๆ อย่างลีดส์และเบิร์นลีย์ในช่วงเวลาเดียวกัน

“ผมอยากพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นเสมอ”

เมื่อถูกถามว่าทำไมยังเลือกอาชีพผู้จัดการทีม ทั้งที่สามารถเป็นนักวิเคราะห์หรือพักผ่อนกับครอบครัวได้ เขาตอบอย่างจริงใจว่า

“ผมอยากพิสูจน์ตัวเองอยู่ตลอดเวลา ผมอยากพิสูจน์ว่าผมทำได้ และนั่นคือแรงผลักดันของผม”
“ผมรู้ว่าคนภายนอกชอบตัดสินว่าใครเป็นโค้ชที่ดีหรือไม่ดี แต่นั่นคือธรรมชาติของวงการ ผมไม่ยึดติดกับเสียงวิจารณ์ ผมแค่ทำงานให้ดีที่สุด”

ความทรงจำในทีมชาติอังกฤษ

แลมพาร์ดเคยเป็นหนึ่งใน “Golden Generation” ของอังกฤษยุค 2000 เขากล่าวถึงข้อถกเถียงเก่า ๆ ว่าทีมชุดนั้น “ควรได้แชมป์” ว่า

“ไม่จริงเลย เราต้องเจอกับทีมระดับโลกอย่างสเปน ฝรั่งเศส เยอรมัน มันไม่ง่ายหรอก ผมภูมิใจกับสิ่งที่เราทำ แม้จะไม่ได้แชมป์ แต่มันคือช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตผม”

แลมพาร์ดกับทีมชาติอังกฤษยุคโธมัส ทูเคิล

“คุณเห็นได้เลยว่าทีมอังกฤษตอนนี้มีความเป็นหนึ่งเดียวมากขึ้น”
“โธมัส ทูเคิล มีแนวทางที่ชัดเจน มีสไตล์การเล่นที่สมดุล และนักเตะเคารพกันและกัน ผมมองว่ามันเป็นทิศทางที่ดีมาก”

ชีวิตนอกสนามของ แฟรงค์ แลมพาร์ด

เมื่อไม่ได้คุมทีม เขาชอบฟังพอดแคสต์แนวอาชญากรรมและการเมือง โดยเฉพาะรายการ Dateline ที่เล่าเรื่องสืบสวนคดีฆาตกรรม

เขายังฟังบทสัมภาษณ์ของ เยอร์เก้น คล็อปป์ กับ สตีเวน บาร์ตเลตต์ และบอกว่า “ได้เรียนรู้มุมมองของผู้จัดการทีมระดับโลกจากอีกแง่หนึ่งที่ไม่ใช่เรื่องฟุตบอล”

นอกจากนี้เขายังเป็นแฟนเพลงยุค 90 อย่าง Oasis และ The Enemy วงดนตรีประจำเมืองโคเวนทรี ที่เพลง “We’ll Live and Die in These Towns” ถูกใช้เปิดก่อนเริ่มเกมในสนามซีบีเอส อารีนา

ครอบครัวคือพลังใจ

แม้จะเป็น “workaholic” แต่แลมพาร์ดยอมรับว่าช่วงเวลาอยู่กับครอบครัวทำให้เขาสมดุลขึ้น

“ผมมีลูกสี่คน ลูกสาวสองคนเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัย ส่วนลูกเล็กอีกสองคนอยู่กับผมกับภรรยา พวกเขาทำให้ผมกลับมามีความสุขกับชีวิตเรียบง่ายอีกครั้ง”

มุมมองจาก ufabet แทงบอล

ในสายตาของ ufabet แทงบอล การกลับมาของแลมพาร์ดคือเรื่องราวของ “การพิสูจน์ตัวเองครั้งที่สี่” หลังผ่านช่วงขึ้นลงจากการคุมเชลซี, ดาร์บี้ เคาน์ตี้ และเอฟเวอร์ตัน เขากลับมาในเวทีแชมเปียนชิพพร้อมเปลี่ยนโคเวนทรีให้เป็นทีมที่เล่นเกมบุกดุดันและมีเอกลักษณ์

การเน้นพลังงาน ความเร็ว และความสามัคคีในทีม คือหัวใจสำคัญของ “Lampard Ball” เวอร์ชันใหม่ที่กำลังพาโคเวนทรีลุ้นกลับพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง

สรุป

  • แลมพาร์ดนำโคเวนทรีรั้งจ่าฝูงแชมเปียนชิพ ยิงมากสุดใน 4 ลีกอังกฤษ
  • สไตล์โค้ช “อยู่กลางสนาม” และเน้นพลังเกมรุก
  • เชื่อว่าความสามัคคีสำคัญกว่าชื่อเสียง
  • ชีวิตนอกสนามเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยพลังบวกจากครอบครัว

“ผมอยากพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นเสมอ นั่นแหละคือแรงขับของผม” แฟรงค์ แลมพาร์ด ufabet แทงบอล