ต้องยกความดีความชอบ โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ ชี้ฮีโร่ตัวจริงที่ไม่มีใครคาด คว้า Man of the Match พาทีมคริสตัล พาเลซบุกชนะฟูแล่ม ufa800
ชัยชนะเหนือฟูแล่มแบบสุดระทึก 2-1 ของคริสตัล พาเลซเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กลายเป็นหนึ่งในเกมที่แฟนบอลพูดถึงมากที่สุด เพราะไม่ใช่แค่ผลการแข่งขันที่เปลี่ยนอันดับในพรีเมียร์ลีกเท่านั้น แต่ยังเป็นเกมที่เผยให้เห็น “จิตวิญญาณของทีม” อย่างเต็มรูปแบบ และยังทำให้ โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ ผู้จัดการทีมชาวออสเตรีย ออกมายกย่องหนึ่งในนักเตะอาวุโสของทีมแบบหมดใจ คนที่หลายคนมองข้าม แต่กลับกลายเป็นฟันเฟืองที่สำคัญที่สุดของเกมนี้
เกมระหว่างฟูแล่มและคริสตัล พาเลซไม่ใช่เกมที่ง่ายสำหรับผู้มาเยือนเลย ฟูแล่มครองบอลได้มากกว่า สร้างโอกาสได้บ่อย แต่พาเลซใช้จังหวะที่เฉียบคมกว่าและความแน่นอนในแดนหลังเป็นจุดเปลี่ยน รวมถึงการเติมเกมชุดใหญ่ในช่วงท้ายจนได้ประตูชัยจากลูกโหม่งของมาร์ค เกฮี ในนาทีที่ 87 ทำให้ทีมกระโดดขึ้นไปอยู่ในโควต้าแชมเปียนส์ลีกอย่างสง่างาม
แต่ท่ามกลางกระแสของคนที่ยิงประตูหรือแอสซิสต์ กลาสเนอร์กลับพูดชื่อที่ไม่มีใครคาดคิด นาธาเนียล ไคลน์ (Nathaniel Clyne) แบ็กขวาวัย 34 ปี ผู้ที่ไม่ได้ออกสตาร์ทให้พาเลซมานานหลายเดือน
ไคลน์ คนที่ไม่มีใครมอง แต่โค้ชเห็นทุกฝีก้าว
กลาสเนอร์กล่าวกับ PalaceTV แบบชัดเจนว่า
“สำหรับผม แมน ออฟ เดอะ แมตช์ คือ ไคลน์ เขาไม่ได้ออกสตาร์ทมานานหลายเดือน แต่พอรู้ว่า มูญอซเล่นไม่ได้ ผมบอกเขาทันทีว่าเขาจะได้ลงสนาม และสิ่งที่เขาทำในสนามในวัย 34 ปี มันน่าเหลือเชื่อมาก”
คำชื่นชมนี้สะท้อนถึงสิ่งที่แฟนบอลอาจไม่เห็น การรักษาระดับร่างกาย ฟอร์ม และสมาธิของผู้เล่นที่แทบไม่ได้ลงสนาม การกลับมาลงเล่นในเกมพรีเมียร์ลีกที่เข้มข้นขนาดนี้ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้โดยง่าย โดยเฉพาะเกมที่ฝ่ายตรงข้ามมีตัวรุกที่อันตรายอย่างแฮร์รี วิลสัน และวิลเลียน ที่ใช้ความไวเป็นอาวุธหลัก
กลาสเนอร์ยังเสริมอีกว่า
“เขาซ้อมกับกลุ่มเล็ก ๆ 7–8 คน ไม่ค่อยได้ซ้อมทีมใหญ่ แต่กลับทำผลงานระดับนี้ในเกมจริง ผมต้องชมเขาขั้นสุด ทั้งในฐานะนักเตะและมนุษย์คนหนึ่ง”
การพูดเช่นนี้สะท้อนว่ากลาสเนอร์ไม่ได้มองแค่เรื่องแท็คติก แต่ยังมองเรื่อง “หัวใจนักสู้” ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากในฟุตบอลอังกฤษยุคปัจจุบัน
พาเลซ ทีมที่ค่อย ๆ เติบโตตามปรัชญาของกลาสเนอร์
ชัยชนะเหนือฟูแล่มนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
แต่เป็นภาพสะท้อนของพัฒนาการภายใต้กลาสเนอร์ในแบบที่ค่อยเป็นค่อยไปแต่มั่นคง
พาเลซยุคนี้มีจุดเด่นคือ
✔ เกมรับที่แน่นขึ้น
พาเลซภายใต้กลาสเนอร์เริ่มแสดงให้เห็นการยืนโซนที่กระชับขึ้น การปิดไลน์การจ่ายบอลของคู่แข่ง และการเปลี่ยนจากรับเป็นรุกที่รวดเร็วกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด
✔ COUNTER ATTACK ที่เฉียบกว่าทุกปี
เกมรุกสวนกลับมีความชัดเจน สั้น กระชับ และอาศัยความเร็วของแนวรุกอย่าง เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ที่ปีนี้กำลังอยู่ในช่วงท็อปฟอร์ม
✔ ความมั่นใจของนักเตะเพิ่มขึ้น
กลาสเนอร์ให้เกียรติผู้เล่นทุกคน ไม่ว่าจะเป็นตัวจริงหรือสำรอง จึงทำให้ทีมมีบรรยากาศในห้องแต่งตัวที่ดีมาก ส่งผลกับผลงานในสนามเต็ม ๆ
ฟูแล่ม ครองบอลมากกว่า แต่ไม่เฉียบคมพอ
มาร์โก ซิลวา กุนซือของฟูแล่มก็ออกมาพูดหลังเกมชัดเจนว่าเขามองว่าทีมของตัวเอง “โดดเด่นกว่า” ในหลายช่วง โดยเฉพาะการครองบอลและการเคลื่อนที่ในแดนกลาง แต่ขาดการจบสกอร์ที่เด็ดขาดกว่า
ซิลวากล่าวว่า
“เราครองเกมได้เหนือกว่าในบางจังหวะ แต่การเคลื่อนบอลเร็วไม่พอ ทำให้พาเลซปิดพื้นที่ได้ทัน และเราไม่สามารถหาทางเจาะได้มากพอ”
ฟูแล่มจึงกลายเป็นทีมที่ “ดูลงทุนเยอะ แต่กำไรน้อย” ในหลายเกมของฤดูกาลนี้ เนื่องจากเกมรับยังมีช่องโหว่ในการประกบตัวลูกกลางอากาศ ซึ่งนำไปสู่ประตูชัยของพาเลซจากลูกเตะมุม
จุดเปลี่ยนของเกม ลูกเซตเพลย์นาทีที่ 87
เกมดูเหมือนจะจบลงด้วยการแบ่งแต้ม แต่ลูกเตะมุมในช่วงท้าย กลายเป็นจุดที่เปลี่ยนเกมทั้งหมด
• ลูกเปิดโค้งไปเสาไกล
• เกฮีหลุดประกบ
• โหม่งย้อนเสาแบบสุดคม
เป็นหนึ่งในลูกโหม่งที่สวยที่สุดของสัปดาห์ และทำให้พาเลซเก็บสามคะแนนสำคัญไปครอง
กลาสเนอร์กล่าวหลังเกมว่า
“เราสร้างเกมได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ และผมรู้สึกว่าเราจะเป็นฝ่ายได้ประตูมากกว่าพวกเขา พร้อมแฟนบอลที่เชียร์จนวินาทีสุดท้าย เราเลยคู่ควรกับชัยชนะนี้”
จากทีมที่กังวลตกชั้น สู่อันดับ TOP 4
ฤดูกาลนี้พาเลซเริ่มต้นแบบไม่หวือหวา แต่การจัดการทีมที่ชัดเจนของกลาสเนอร์ ทำให้ทีมค่อย ๆ เข้ามาอยู่ในจุดที่ใกล้ความฝัน การไปเล่นยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร
กลาสเนอร์ตบท้ายว่า
“เราเพลิดเพลินกับทุกเกม และนี่คือสิ่งที่เราต้องรักษาไว้เพื่อประสบความสำเร็จตลอดฤดูกาล”
ซึ่งถ้าทีมยังรักษาฟอร์มนี้ไว้ได้ ย่อมไม่มีเหตุผลใดที่พาเลซจะไม่สามารถยืนระยะในอันดับหัวตารางได้
วิเคราะห์เชิงแท็คติก ทำไมไคลน์จึงสำคัญขนาดนี้
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น นี่คือสิ่งที่ไคลน์ทำได้โดดเด่นมากในเกมนี้
1) ปิดพื้นที่ฝั่งขวาแบบสมบูรณ์
ไคลน์ยืนตำแหน่งแบบ “ประสบการณ์ล้วน ๆ”
เขารู้ว่าจะยืนใกล้คู่แข่งเมื่อไหร่ และรู้ว่าจะถอยเพื่อลดความเสี่ยงเมื่อไหร่
2) อ่านเกมได้ดีมาก
ผู้เล่นที่ขาดเกมนานมักอ่านเกมผิดพลาด แต่ไคลน์เป็นตรงกันข้าม เขาอ่านการเคลื่อนที่ของวิลสันได้แม่นยำ ทั้งจังหวะตัดบอลและจังหวะถอยหลัง
3) ประสบการณ์สู้ความเร็วได้
แม้จะอายุ 34 แต่เขาไม่เสียท่าเลยแม้แต่นิดเดียว
แสดงถึงการเตรียมร่างกายและวินัยที่ยอดเยี่ยม
4) เป็นผู้นำแบบเงียบ ๆ
เขาคอยกำกับเกมรับฝั่งขวา พูดคุยกับกองหลังและแผงมิดฟิลด์ตลอด ซึ่งเป็นรายละเอียดที่โค้ชมักเห็น แต่แฟนบอลส่วนใหญ่มองข้าม
ทั้งหมดนี้ทำให้เขากลายเป็น ฮีโร่ที่ไม่มีใครคาดคิด ในค่ำคืนที่พาเลซเก็บสามแต้มสำคัญที่สุดเกมหนึ่งของฤดูกาล
สรุป
เกมนี้คือหนึ่งในภาพสะท้อนของฟุตบอลอังกฤษสมัยใหม่ ที่ชัยชนะไม่ได้มาจากซูเปอร์สตาร์เสมอไป แต่จากการทำงานหนักของนักเตะที่แทบไม่มีใครพูดถึง ไคลน์คือคนนั้น และผลงานของเขาเป็นตัวอย่างชัดเจนว่าผู้จัดการทีมที่รู้จักนักเตะลึกจริง สามารถเปลี่ยนผู้เล่นธรรมดา ๆ ให้กลายเป็นกุญแจสำคัญในเกมที่ต้องการมากที่สุดได้
ชัยชนะของพาเลซไม่ใช่แค่สามคะแนน แต่เป็นการประกาศว่าพวกเขากำลังจะกลายเป็นหนึ่งในทีมที่อันตรายที่สุดของพรีเมียร์ลีกปีนี้อย่างแท้จริง
หากคุณอยากติดตามบอลพรีเมียร์ลีกแบบสนุกขึ้น ลุ้นมันขึ้น และมีข้อมูลวิเคราะห์ระดับเดียวกับนักข่าวสนาม ลองเริ่มต้นกับเว็บที่ปลอดภัยและให้ราคาน้ำดีที่สุดได้ที่ ufa800 เว็บที่คอบอลอังกฤษเลือกใช้มากที่สุดในปีนี้ ฝากไว ได้เงินจริง ลุ้นมันทุกคู่ที่คุณเชียร์
