คริสเตียโน โรนัลโด มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์

โรนัลโด

คริสเตียโน โรนัลโด มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ เตรียมแซงหน้าเดวิด เบ็คแฮม และลิโอเนล เมสซี ด้วยความช่วยเหลือของโดนัลด์ ทรัมป์

เมื่อเร็วๆ นี้ คริสเตียโน โรนัลโด ถูกพบเห็นขณะปรากฏตัวที่ทำเนียบขาว และนักการเงินคนหนึ่งเชื่อว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้จะส่งผลดีต่อยอดเงินในบัญชีของเขาที่เพิ่มขึ้นอยู่แล้ว

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ไม่ได้เป็นแค่ซูเปอร์สตาร์ลูกหนังอีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็น “สินทรัพย์แบรนด์ระดับพันล้านดอลลาร์” ที่ถูกพูดถึงในฐานะเคสศึกษาทางธุรกิจระดับโลก จากอดีตเด็กหนุ่มที่แจ้งเกิดกับสปอร์ติ้ง ลิสบอน ก่อนพุ่งขึ้นสู่แถวหน้ากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ระเบิดชื่อเสียงระดับจักรวาลกับเรอัล มาดริด ต่อด้วยยูเวนตุส จนมาถึงอัล นาสเซอร์ ในซาอุดีอาระเบีย วันนี้เส้นทางของเขาไม่ได้ถูกวัดแค่จำนวนประตูหรือถ้วยแชมป์อีกแล้ว แต่ถูกวัดเป็น “มูลค่าแบรนด์” ในระดับที่มหาเศรษฐียังต้องเหลียวมอง

ข่าวใหญ่ล่าสุดที่ทำให้ชื่อของโรนัลโด้ถูกพูดถึงในมุมธุรกิจมากกว่าฟุตบอล คือการปรากฏตัวของเขาที่ทำเนียบขาวในงานเลี้ยงอย่างเป็นทางการ ซึ่งมีโดนัลด์ ทรัมป์ และครอบครัวอยู่ในซีนเดียวกัน ภาพเหล่านี้ถูกแชร์ออกไปทั่วโลก และกลายเป็นจุดตั้งต้นให้ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจกีฬาเริ่มประเมินว่า “การไปเยือนครั้งนี้” อาจไม่ใช่แค่เรื่องหน้าตา แต่เป็นหมากสำคัญในเกมสร้างแบรนด์ระดับโลก

โรนัลโด้ในมุมมองผู้เชี่ยวชาญ: สินทรัพย์แบรนด์ระดับพันล้าน

ศาสตราจารย์ ร็อบ วิลสัน ผู้อำนวยการด้าน Executive Education จาก University Campus of Football Business ให้สัมภาษณ์กับ Vegas Insider ว่า ในมุมมองของเขา โรนัลโด้ “ปัจจุบันทำงานในฐานะสินทรัพย์ระดับพันล้านดอลลาร์อยู่แล้ว” ไม่ใช่แค่กำลังจะถึง แต่คือ “อยู่ตรงนั้นแล้ว”

เขาอธิบายว่า ภาพที่โรนัลโด้ไปปรากฏตัวในงานเลี้ยงที่ทำเนียบขาว มีความหมายมากกว่าการถ่ายรูปสวย ๆ เพราะมันเพิ่ม “ความเกี่ยวข้องทางการเมือง” และ “การมองเห็นในสายตาสหรัฐฯ” ให้กับแบรนด์ CR7 อย่างมหาศาล แบรนด์ระดับโลกจำนวนมากให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ที่ผูกโยงกับผู้นำประเทศหรือเวทีทางการระดับสูง การที่โรนัลโด้เข้าไปอยู่ในเฟรมภาพเหล่านั้น จึงกลายเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อสายตานักลงทุนและผู้สนับสนุนเชิงธุรกิจ

เมื่อโดนัลด์ ทรัมป์พูดถึงโรนัลโด้ – ภาพลักษณ์ที่ “ดูเป็นคนธรรมดา” มากขึ้น

หนึ่งในประเด็นที่ศาสตราจารย์วิลสันย้ำคือ “โมเมนต์ที่ทรัมป์พูดถึงโรนัลโด้ในฐานะนักเตะคนโปรดของลูกชาย” สิ่งนี้ทำให้ภาพของเขาถูก “ทำให้ดูเป็นมนุษย์มากขึ้น” หรือ humanised ในสายตาสาธารณชน

ปกติแล้วโรนัลโด้ถูกมองว่าเป็นซูเปอร์สตาร์ที่ไกลตัว เต็มไปด้วยความสมบูรณ์แบบ ทั้งรูปร่าง หน้าตา ชื่อเสียง และชีวิตหรูหรา แต่เมื่อมีการเล่าเรื่องว่าลูกชายของผู้นำระดับโลกคนหนึ่ง “ชอบเขาเหมือนแฟนบอลคนอื่น ๆ” ภาพของโรนัลโด้จะเปลี่ยนจาก “ไอคอนที่แตะไม่ถึง” กลายเป็น “ฮีโร่ในชีวิตจริงของผู้คน” มากขึ้น

จุดนี้เองที่ทำให้แบรนด์ใหญ่ ๆ โดยเฉพาะในสหรัฐฯ มองเห็นโอกาส เพราะลูกค้าจำนวนมากอยากใช้สินค้าแบบเดียวกับคนที่ตนเองชื่นชอบ เมื่อโรนัลโด้ถูกเชื่อมโยงเข้ากับครอบครัวผู้นำ การยอมรับจากสายตาผู้บริโภคก็ขยายวงเพิ่มขึ้นอีกขั้น

Earned Media มูลค่าหลายสิบล้านดอลลาร์ และดีลสปอนเซอร์ที่อาจแตะ 100 ล้านในสหรัฐฯ

วิลสันประเมินว่า “มูลค่าของ Earned Media” หรือการได้รับพื้นที่สื่อฟรี จากการเป็นข่าวในสื่อต่าง ๆ ทั่วโลกจากเหตุการณ์นี้ น่าจะอยู่ระดับ “แปดหลักตอนกลาง” หรือหลายสิบล้านดอลลาร์เข้าไปแล้ว และเมื่อรวมเข้ากับภาพลักษณ์ที่ถูกยกระดับในสายตาแบรนด์ต่าง ๆ ก็จะส่งผลให้ “ค่าตัวด้านสปอนเซอร์” ของโรนัลโด้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย

ปัจจุบันพอร์ตสปอนเซอร์ของเขาสร้างรายได้มากกว่า 60 ล้านดอลลาร์ต่อปี และศาสตราจารย์วิลสันมองว่า หลังจากเหตุการณ์ที่ทำเนียบขาวนี้ เราอาจเห็นตัวเลขพุ่งเข้าใกล้ 100 ล้านดอลลาร์จากตลาดสหรัฐฯ เพียงอย่างเดียว ในอนาคตอันใกล้

อย่าลืมว่า โรนัลโด้มีฐานแฟนคลับทั่วโลก ทั้งในยุโรป เอเชีย ตะวันออกกลาง และละตินอเมริกา การที่เขากำลังขยายฐานการรับรู้ในสหรัฐฯ ผ่านเวทีการเมืองและเศรษฐกิจ ทำให้แบรนด์ต่าง ๆ มองเห็นเขาในฐานะ “แพลตฟอร์มโฆษณาระดับโลก” ที่เชื่อมผู้บริโภคข้ามทวีปเข้าหากันได้ในคน ๆ เดียว

เปรียบเทียบกับเมสซี่: จากนักเตะสู่ทูตเศรษฐกิจและธุรกิจระดับชาติ

ศาสตราจารย์วิลสันไม่ได้พูดถึงโรนัลโด้เพียงคนเดียว เขายังยกตัวอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ ว่า กำลังเดินอยู่บนเส้นทางเดียวกันในอีกมุมหนึ่ง

เมสซี่ปรากฏตัวในเวทีอย่าง America Business Forum ร่วมกับบุคคลระดับโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งไม่ใช่เวทีฟุตบอล แต่เป็นเวทีธุรกิจระดับภูมิภาค เขาถูกมองในฐานะ “ทูตเศรษฐกิจ” ที่เชื่อมโยงอเมริกา ละตินอเมริกา และตลาดฟุตบอลโลกเข้าด้วยกัน

การย้ายไปเล่นให้ อินเตอร์ ไมอามี่ ก็ไม่ใช่แค่เรื่องกีฬา แต่ส่งผลต่อ “งบดุล” ของสโมสรอย่างชัดเจน มีรายงานว่า รายได้ของสโมสรเพิ่มขึ้นเท่าตัว และมูลค่าประเมินของทีมขยับขึ้นไปเกิน 1,000 ล้านดอลลาร์ การที่ชื่อของเมสซี่ปรากฏในบอร์ดสโมสร ธุรกิจร่วมทุน และดีลสปอนเซอร์เชิงกลยุทธ์ ทำให้แบรนด์ “เมสซี่” ถูกตีค่าเข้าใกล้ 1,000 ล้านดอลลาร์เช่นกัน

เบ็คแฮม – มาตรฐานดั้งเดิมของการเปลี่ยนชื่อเสียงเป็นอาณาจักรธุรกิจ

ก่อนที่คนจะพูดถึงโรนัลโด้และเมสซี่ในฐานะแบรนด์ระดับพันล้าน ชื่อที่ถูกยกมาอ้างอิงบ่อยที่สุดคือ เดวิด เบ็คแฮม

เบ็คแฮมถูกมองว่าเป็น “รุ่นบุกเบิก” ของการใช้ชื่อเสียงนักฟุตบอลไปสร้างอาณาจักรธุรกิจ เขาและวิคตอเรีย เบ็คแฮม มีมูลค่ารวมกันราว 500 ล้านปอนด์ มีธุรกิจด้านแฟชั่น น้ำหอม เสื้อผ้า ไลฟ์สไตล์ และโดยเฉพาะ “สิทธิ์ภาพลักษณ์” ที่สร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ เขายังมีส่วนถือหุ้นในอินเตอร์ ไมอามี่ ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าสโมสรระดับพันล้านดอลลาร์ ทำให้เบ็คแฮมถูกยกให้เป็นตัวอย่างของการเปลี่ยนความดังในสนาม ไปเป็น “อาณาจักรชีวิตหลังแขวนสตั๊ด” ที่จับต้องได้จริง

แต่ตอนนี้ ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากเริ่มเห็นตรงกันว่า เมสซี่และโรนัลโด้ “ขึ้นไปอยู่บนเวทีที่ใหญ่กว่า” ทั้งในด้านฐานแฟนทั่วโลก และขนาดของโอกาสทางธุรกิจที่เชื่อมโยงกับภาคการเงิน ภาครัฐ และสถาบันระหว่างประเทศ

Ronaldo vs Messi: แบรนด์ระดับสถาบันในสองทิศทางที่ต่างกัน

บทวิเคราะห์ของศาสตราจารย์วิลสันชี้ให้เห็นภาพน่าสนใจว่า โรนัลโด้และเมสซี่ไม่ได้เป็นแค่แบรนด์บุคคลธรรมดาอีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็น “Institutional Brands” หรือแบรนด์ที่ใหญ่พอจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับดีลในระดับสถาบัน รัฐบาล หรือองค์กรข้ามชาติ

  • ฝั่งโรนัลโด้ ถูกมองว่าเชื่อมโยงกับภาพลักษณ์ Luxury Fitness, ไลฟ์สไตล์สุขภาพ และแพลตฟอร์มจากกลุ่มทุนตะวันออกกลาง ผ่านการเล่นให้สโมสรอย่างอัล นาสเซอร์ และดีลทางการเงินในลีกซาอุฯ
  • ฝั่งเมสซี่ ถูกมองว่าเป็น “สะพานเชื่อมอำนาจละมุน” (Soft Power) ระหว่างอเมริกา ทวีปอเมริกาใต้ และตลาดฟุตบอลโลก เขาไม่ใช่แค่พรีเซนเตอร์ แต่กลายเป็นผู้มีบทบาททางเศรษฐกิจในสายตารัฐบาลและนักลงทุน

ทั้งสองคนมีศักยภาพที่จะเซ็นดีลในรูปแบบใหม่ ๆ เช่น การถือหุ้นในกองทุน การร่วมทุนในโปรเจ็กต์โครงสร้างพื้นฐาน การผลักดันโปรเจ็กต์กีฬา-ท่องเที่ยวระดับชาติ ไปไกลกว่าการรับสปอนเซอร์เสื้อผ้า รองเท้า หรือน้ำหอมแบบยุคก่อน

โรนัลโด้: นักเตะพันล้านคนแรก และช่องว่างที่เริ่มเปิดกว้างเหนือเบ็คแฮม-เมสซี่

หนึ่งในไฮไลต์สำคัญของบทความต้นทางคือ การระบุว่า โรนัลโด้ถูกจัดให้เป็น “นักฟุตบอลที่ยังเล่นอยู่คนแรกที่มีทรัพย์สินแตะระดับพันล้านดอลลาร์” โดยส่วนหนึ่งมาจากสัญญาใหม่กับอัล นาสเซอร์ ในลีกซาอุฯ ที่มีมูลค่าสูงกว่า 400 ล้านดอลลาร์

มีการประเมินว่า มูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดของเขาในตอนนี้อยู่ที่ราว 1.4 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1 พันล้านปอนด์ ซึ่งมากกว่าทั้งเบ็คแฮมและเมสซี่ในแง่ตัวเลขสุทธิ

  • คู่เบ็คแฮมมีมูลค่าทรัพย์สินรวมราว 500 ล้านปอนด์
  • เมสซี่มีมูลค่าทรัพย์สินราว 850 ล้านดอลลาร์ หรือราว 650 ล้านปอนด์

แม้ตัวเลขเหล่านี้จะเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา แต่ภาพรวมที่เห็นคือ โรนัลโด้ “นำอยู่หนึ่งสเต็ป” ในแง่ความมั่งคั่งส่วนบุคคล และยังมีพื้นที่ให้เติบโตอีก ด้วยความนิยมบนโซเชียลมีเดีย การเปิดตลาดใหม่ ๆ และการปรากฏตัวบนเวทีการเมือง-เศรษฐกิจแบบที่ทำเนียบขาวในครั้งนี้

อนาคตของแบรนด์นักฟุตบอล – จากซูเปอร์สตาร์ สู่ทรัพย์สินระดับโลก

กรณีของโรนัลโด้ เมสซี่ และเบ็คแฮม กำลังสะท้อนเทรนด์ใหม่ว่า นักฟุตบอลระดับท็อปในยุคถัดไป จะไม่ได้มองตัวเองแค่ในฐานะ “นักกีฬา” แต่เป็น “แพลตฟอร์มแบรนด์” ที่สามารถแตกแขนงไปสู่อุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้อย่างไร้ขีดจำกัด

การไปร่วมงานกับผู้นำประเทศ การเข้าฟอรั่มธุรกิจ การถือหุ้นในสโมสรหรือโปรเจ็กต์ใหญ่ ๆ ล้วนเป็น “เวทีใหม่ของนักเตะระดับตำนาน” ที่เปลี่ยนจากการยิงประตูในสนาม มาเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แบรนด์ตัวเองและพันธมิตรทางธุรกิจ

สำหรับโรนัลโด้ การไปเยือนทำเนียบขาวครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงข่าวสีสันหรือภาพไวรัลในโลกออนไลน์ แต่เป็นหลักไมล์สำคัญของเส้นทางการสร้างแบรนด์ ที่อาจทำให้เขาก้าวขึ้นไปอยู่เหนือเบ็คแฮม และเบียดกับเมสซี่ในฐานะ “แบรนด์ฟุตบอลที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก”

คุณอาจค้นพบว่า การเข้าใจตัวเลข ฟอร์มทีม และกระแสโลกฟุตบอล ช่วยให้ตัดสินใจใน ยูฟ่าเบท แทงบอลได้เฉียบคมไม่แพ้สายลงทุนระดับโลกเลยครับ