ทีมชาติชายสหรัฐฯ จะถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม D โดยอัตโนมัติในฐานะประเทศเจ้าภาพ
การเป็นเจ้าภาพร่วมฟุตบอลโลก 2026 ทำให้ ทีมชาติชายสหรัฐฯ หรือ USMNT ไม่ได้เป็นแค่ “ผู้จัดงาน” แต่ยังถูกคาดหวังให้ทำผลงานในสนามให้สมศักดิ์ศรีด้วย ยิ่งเมื่อทีมกำลังอยู่ในฟอร์มที่มั่นคงภายใต้การคุมทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ความคาดหวังจากแฟนบอลยิ่งสูงขึ้นไปอีกหลายเท่า และหนึ่งในจุดเริ่มต้นของเส้นทางฝันในทัวร์นาเมนต์นี้ก็คือ “ผลการจับสลากรอบแบ่งกลุ่ม” ว่าจะต้องเจอใครบ้างในช่วงแรกของรายการ
แม้ตอนนี้การจับสลากจริงจะยังไม่เกิดขึ้น แต่สื่อดังอย่าง Sports Illustrated ได้ทำการ “จำลองผลจับสลาก” และผลที่ออกมาก็น่าจะทำให้สาวก USMNT ยิ้มออก เพราะกลุ่มที่ได้ถือว่า “นุ่ม” พอสมควรเมื่อเทียบกับชาติใหญ่ทีมอื่น ๆ และช่วยเปิดโอกาสให้พวกเขามีเส้นทางเข้ารอบน็อกเอาต์ที่สดใสกว่าหลายชาติร่วมทัวร์นาเมนต์
สถานะปัจจุบันของ USMNT ยุคโปเช็ตติโน่
ก่อนจะไปดูว่ากลุ่ม D ในการจำลองหน้าตาเป็นอย่างไร ต้องมองภาพรวมของทีมชุดนี้ก่อน ปัจจุบัน USMNT กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มดีต่อเนื่อง ไม่แพ้ใคร 5 นัดติด และปิดท้ายปีด้วยการถล่มอุรุกวัย 5–1 ในเกมอุ่นเครื่องช่วงเดือนพฤศจิกายน แม้ฝ่ายตรงข้ามจะขาดตัวหลักหลายคน แต่ผลการแข่งขันและรูปแบบการเล่นก็เพียงพอจะทำให้แฟนบอลมั่นใจว่าโปรเจกต์ของโปเช็ตติโน่กำลังเดินมาถูกทาง
แท็กติก 3-4-3 ที่กุนซืออาร์เจนไตน์เลือกใช้ ทำให้ทีมมีความสมดุลมากขึ้นทั้งเกมรุกและเกมรับ วิงแบ็กใช้จุดเด่นเรื่องสปีด ขณะที่แนวรุกอย่าง Christian Pulisic, Folarin Balogun และ Malik Tillman ได้เล่นในโซนอันตรายตลอดเวลา สิ่งเหล่านี้ทำให้หลายคนมองว่าหากได้กลุ่มไม่โหดเกินไป USMNT มีสิทธิ์ไปไกลเกินกว่ารอบ 16 ทีมสุดท้ายแน่นอน
ระบบการแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 และความสำคัญของการได้ “กลุ่มถูก”
ฟุตบอลโลก 2026 จะมี 48 ทีม แบ่งเป็น 12 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม โดย 2 อันดับแรกของแต่ละกลุ่มจะเข้ารอบน็อกเอาต์อัตโนมัติ จากนั้นจะเลือก “อันดับ 3 ที่ดีที่สุด” อีก 8 ทีม เข้าไปประกบคู่ในรอบ 32 ทีมสุดท้าย
ด้วยจำนวนทีมที่เพิ่มขึ้น การได้กลุ่มที่สมดุล ไม่หนักเกินไป แต่ก็ไม่เบาเกินจนประมาท เป็นสิ่งสำคัญมาก ทีมที่เป็นเจ้าภาพจะถูกจัดให้อยู่ใน โถที่ 1 (Pot 1) ทำให้ USMNT ไม่ต้องเจอทีมระดับมหาอำนาจอย่าง สเปน ฝรั่งเศส อังกฤษ บราซิล หรืออาร์เจนตินาในรอบแบ่งกลุ่มแน่นอน ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในเชิงโครงสร้างการแข่งขัน
แม้ตอนนี้จะมีทีมผ่านเข้ารอบแล้ว 42 ชาติ และยังเหลืออีก 6 ที่นั่งให้ตัดสินกันในเพลย์ออฟของโซนยุโรปและเพลย์ออฟข้ามทวีปในเดือนมีนาคม แต่การจำลองจับสลากก็เริ่มมีให้เห็นแล้ว และหนึ่งในนั้นก็คือเวอร์ชันที่ส่งเราไปยัง “กลุ่ม D” ที่แฟนบอลสหรัฐฯ คงยินดีไม่น้อยหากกลายเป็นจริง
กลุ่ม D ในฝันของ USMNT: ไม่ง่าย แต่มีลุ้นสูง
ในโมเดลจำลองนี้ USMNT ถูกวางไว้ใน กลุ่ม D ร่วมกับ
- สหรัฐอเมริกา (เจ้าภาพ)
- อุรุกวัย (CONMEBOL)
- อียิปต์ (CAF)
- ซาอุดีอาระเบีย (AFC)
แค่เห็นรายชื่อหลายคนอาจคิดว่าไม่ใช่งานสบาย เพราะทุกทีมมีประสบการณ์ในเวทีใหญ่ แต่เมื่อเทียบศักยภาพและสภาพแวดล้อมที่ USMNT ได้เล่นในบ้าน การเข้ารอบน็อกเอาต์จากกลุ่มนี้ถือว่า “สมเหตุสมผล” และมีโอกาสสูงทีเดียว
ดวลอุรุกวัย: การรีแมตช์ที่เต็มไปด้วยความทรงจำ
หนึ่งในรูปคู่ที่น่าสนใจที่สุดคือการเจอกับ อุรุกวัย อดีตแชมป์โลก 2 สมัย ทีมจากอเมริกาใต้ที่ขึ้นชื่อเรื่องความหนักแน่น ดุดัน และเปี่ยมไปด้วยนักเตะยอดฝีมือ
USMNT เพิ่งเอาชนะอุรุกวัยด้วยสกอร์ 5–1 ในเกมอุ่นเครื่องปิดท้ายปี 2025 โดยแมตช์นั้นเป็นการแสดงความเฉียบคมจากผู้เล่นอย่าง Sebastian Berhalter และ Alex Freeman ที่ทำประตูทีมชาติชุดใหญ่ได้เป็นครั้งแรก อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝั่งต่างมีการโรเตชั่นตัวจริงพอสมควร และถ้าเจอกันอีกครั้งในฟุตบอลโลก รายชื่อนักเตะและแรงกดดันจะเปลี่ยนไปทั้งหมด
สิ่งสำคัญคือ “ความมั่นใจ” ที่ได้จากชัยชนะในเกมอุ่นเครื่อง ทำให้ USMNT รู้ว่าพวกเขามีเครื่องมือทางแท็กติกและผู้เล่นที่สามารถรับมือกับสไตล์อเมริกาใต้ได้ โดยเฉพาะเมื่อเล่นในบ้านตัวเอง แต่ในทางกลับกัน อุรุกวัยก็จะไม่ยอมปล่อยให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยง่าย ๆ เช่นกัน
โดยรวมแล้ว การเจอกับอุรุกวัยอาจเป็นแมตช์ที่ตัดสินตำแหน่ง “แชมป์กลุ่ม” ด้วยซ้ำ
เจออียิปต์: ระวังซาลาห์ แต่ได้เปรียบบรรยากาศในบ้าน
คู่ต่อสู้จากแอฟริกาที่จำลองไว้คือ อียิปต์ ชาติที่แฟนบอลทั่วโลกคุ้นชื่อดี เพราะพวกเขามีซูเปอร์สตาร์ระดับโลกอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เป็นคนชูธงนำทีม ถ้าเกมนี้เกิดขึ้นจริง นี่จะเป็นหนึ่งในแมตช์ที่เรียกกระแสคนดูได้อย่างล้นหลามแน่นอน
ทั้งสองชาติเคยเจอกันมาแล้วในรายการอย่าง FIFA Confederations Cup ปี 2009 ซึ่ง ทีมชาติชายสหรัฐฯ เคยเก็บชัยชนะ 3–0 แต่เวลาผ่านมานาน ฟุตบอลเปลี่ยน ผู้เล่นเปลี่ยน สถานการณ์ก็เปลี่ยนไปเช่นกัน
ปัจจุบัน อียิปต์เป็นทีมที่เล่นเกมรับแน่น อาศัยจังหวะสวนกลับและความเฉียบคมของซาลาห์ในการตัดสินเกม สหรัฐฯ จะต้องไม่ประมาทอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการปล่อยพื้นที่ด้านข้างกับแนวรับที่ดันสูงเกินไป แต่ในอีกมุมหนึ่ง การเล่นในบ้าน ท่ามกลางแฟนบอลเจ้าถิ่นที่หนุนหลังเต็มที่ ทำให้ USMNT ยังถูกมองว่า “เหนือกว่าเล็กน้อย” ในภาพรวมของเกมนี้
ซาอุดีอาระเบีย: คู่แข่งจากเอเชียที่ห้ามมองข้าม
ทีมสุดท้ายในกลุ่ม D ที่ถูกจับมาร่วมสายคือ ซาอุดีอาระเบีย ตัวแทนจากเอเชียที่ขึ้นชื่อเรื่องวินัยเกมรับและสภาพร่างกายที่ดี USMNT เคยเอาชนะซาอุฯ ใน Gold Cup ที่ผ่านมา แม้จะลงสนามโดยไม่มีชื่อใหญ่ ๆ อย่าง Christian Pulisic, Weston McKennie และ Folarin Balogun แต่ด้วยระบบทีมที่เป็นรูปเป็นร่างแล้ว ทำให้พวกเขาคุมเกมไว้ได้พอสมควร
ถ้าเจอกันในฟุตบอลโลกครั้งนี้ สหรัฐฯ จะมีขุมกำลังที่สมบูรณ์กว่าเดิม แถมยังมีแท็กติกที่ยืดหยุ่นมากขึ้นภายใต้โปเช็ตติโน่ อย่างไรก็ตาม ซาอุฯ เป็นทีมที่ต้องระวังเรื่องจังหวะฉกฉวยความผิดพลาด ทีมที่คิดว่า “นัดนี้ง่ายหน่อย” มักจะเจอเซอร์ไพรส์จากทีมประเภทนี้มาแล้วหลายครั้งในทัวร์นาเมนต์ใหญ่
โอกาสเข้ารอบ: USMNT มีลุ้นทั้งแชมป์กลุ่มและอันดับ 2
เมื่อดูภาพรวมของกลุ่ม D จากการจำลองนี้ สิ่งที่น่าสนใจคือ “โอกาสเข้ารอบของ USMNT ค่อนข้างสดใส”
- อุรุกวัย จะถูกมองว่าเป็นอีกทีมที่ควรเข้ารอบจากประสบการณ์และประวัติศาสตร์ในฟุตบอลโลก
- อียิปต์ มีซาลาห์เป็นตัวชูโรง และพร้อมสร้างเซอร์ไพรส์ได้ทุกเมื่อ
- ซาอุดีอาระเบีย คือทีมที่อาจเบียดลุ้นอันดับ 3 ที่ดีที่สุดได้ หากผลการแข่งขันออกมาเข้าทาง
USMNT มีเส้นทางที่ยืดหยุ่น เพราะต่อให้พลาดบางนัด แต่ด้วยกติกาที่เปิดโอกาสให้ “อันดับ 3 ที่ดีที่สุด 8 ทีม” ได้ผ่านเข้ารอบด้วย ก็ทำให้กลุ่มนี้ไม่ได้โหดระดับ “กลุ่มมรณะ” แบบบางสาย หากรักษาฟอร์มและคว้าชัยชนะในนัดสำคัญหนึ่งหรือสองเกมได้ พวกเขาย่อมมีสิทธิ์ผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์อย่างไม่ต้องสงสัย
ส่องกลุ่มอื่นในจำลอง: ใครหนัก ใครเบา
การจำลองของ Sports Illustrated ไม่ได้ดูแค่กลุ่มของสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ยังวางภาพรวมของทั้ง 12 กลุ่มให้เห็นด้วย ซึ่งช่วยให้มองโครงการแข่งขันได้ชัดขึ้นว่าแต่ละทีมเจอเส้นทางยากง่ายต่างกันเพียงใด
กลุ่ม A: เม็กซิโกเจอทางที่ไม่เรียบ
เม็กซิโกในฐานะเจ้าภาพร่วมถูกวางในกลุ่ม A ร่วมกับ ญี่ปุ่น ไอวอรีโคสต์ และนิวซีแลนด์ กลุ่มนี้จัดว่ายุ่งยากพอสมควร เพราะทั้งญี่ปุ่นและไอวอรีโคสต์เป็นทีมที่เล่นเร็ว แข็งแรง และมีประสบการณ์ในเวทีใหญ่มาแล้ว ขณะที่นิวซีแลนด์เองก็ไม่ใช่หมูให้ใครยิงเล่น ๆ
แม้เม็กซิโกจะถูกคาดหวังให้เข้ารอบ แต่ด้วยฟอร์มช่วงหลังที่สะดุดบ่อย พวกเขาต้องเร่งสร้างความมั่นใจกลับมา หากไม่อยากจบแค่การเป็นเจ้าภาพที่ตกรอบเร็วเกินไป
กลุ่ม B: แคนาดามีลุ้นสร้างประวัติศาสตร์
แคนาดาได้อยู่กลุ่มร่วมกับ เอกวาดอร์ สกอตแลนด์ และจอร์แดน ภาพรวมถือว่า “กลาง ๆ” ไม่เบาแต่ไม่หนักจนเกินไป สกอตแลนด์เป็นทีมที่มีแรงผลักดันสูงมากหลังผ่านรอบคัดเลือกมาแบบดราม่า ส่วนเอกวาดอร์ก็ขึ้นชื่อด้านพลังและเกมรับที่ลุยแหลก
หากแคนาดารักษามาตรฐานการเล่นที่แข็งแกร่งและมีระเบียบวินัย พวกเขามีโอกาสดีที่จะเข้ารอบในฐานะทีมอันดับ 2 หรืออันดับ 3 ที่ดีที่สุด
กลุ่ม C และ E: เนเธอร์แลนด์–อิตาลี และสเปนที่พร้อมไล่ล่าถ้วย
กลุ่ม C มีเนเธอร์แลนด์ และอิตาลี (หากผ่านเพลย์ออฟ) ร่วมกับตูนิเซียและอุซเบกิสถาน กลุ่มนี้เรียกได้ว่า “สองที่นั่งบน” น่าจะเป็นของยุโรปแทบจะชัดเจน ส่วนกลุ่ม E ที่มีสเปนร่วมกับเกาหลีใต้ ตุรกี และคูราเซา ก็เปิดโอกาสให้แชมป์ยุโรปอย่างสเปนทะยานเข้ารอบแบบสบาย ๆ ขณะที่อีกสามทีมต้องแย่งที่ว่างที่เหลือดุเดือดแน่นอน
กลุ่ม F และ G: ยุคสุดท้ายของเดอ บรอยน์–โมดริช และเมสซี่ล่าความฝันอีกครั้ง
กลุ่ม F ที่มีเบลเยียม โครเอเชีย ออสเตรเลีย และเคปเวิร์ด เป็นอีกกลุ่มที่สองยักษ์ใหญ่ยุโรปถูกคาดหมายว่าจะผ่านเข้ารอบแบบไม่ลำบากมาก และอาจเป็นฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายของทั้ง Kevin De Bruyne และ Luka Modrić
กลุ่ม G มีอาร์เจนตินานำทัพร่วมกับเซเนกัล ออสเตรีย และกาตาร์ แน่นอนว่าสายตาทั้งโลกจะจับจ้องไปที่ Lionel Messi ว่าจะสามารถเขียนบทสรุปสุดท้ายในฟุตบอลโลกได้สวยแค่ไหน
กลุ่ม H–L: ฝรั่งเศส เยอรมนี โปรตุเกส อังกฤษ และบราซิล
ฝรั่งเศสในกลุ่ม H มีโอกาสสดใสในการเข้ารอบร่วมกับอิหร่าน ปารากวัย และ DR คองโก ขณะที่เยอรมนีในกลุ่ม I ยังต้องพิสูจน์ตัวเองหลังล้มเหลวสองครั้งติดในฟุตบอลโลกก่อนหน้า
โปรตุเกสของ Cristiano Ronaldo ในกลุ่ม J เจองานโหดสุดระดับ “กลุ่มแห่งความตาย” ร่วมกับโคลอมเบีย นอร์เวย์ และกานา ส่วนอังกฤษในกลุ่ม K และบราซิลในกลุ่ม L ต่างก็ต้องพิสูจน์ตัวเองในฐานะทีมเต็งที่ยังมีคำถามสำคัญให้ตอบ
ภาพรวม: เส้นทางที่ “ใช่” สำหรับโอกาสสร้างซัมเมอร์ในฝันของ USMNT
เมื่อมองภาพรวมทั้งหมด การได้กลุ่ม D แบบในจำลองนี้ถือเป็น “จุดเริ่มต้นที่ดี” สำหรับ USMNT พวกเขาไม่ได้เจอยักษ์ใหญ่ที่น่ากลัวเกินไป แต่ก็ยังได้ลงสนามกับคู่แข่งที่มีคุณภาพระดับทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ทำให้สามารถใช้เป็นบททดสอบจริงก่อนเข้าสู่รอบน็อกเอาต์
ถ้าโปเช็ตติโน่สามารถรักษาฟอร์มของทีมให้สม่ำเสมอ และบริหารสภาพร่างกายผู้เล่นคนสำคัญได้ดี ฟุตบอลโลก 2026 อาจกลายเป็นซัมเมอร์ที่แฟนบอลสหรัฐฯ ไม่มีวันลืมก็เป็นได้ถ้าคุณอยากลุ้นไปกับทุกกลุ่ม ทุกคู่ และทุกเส้นทางสู่แชมป์โลก ลองเพิ่มอรรถรสการเชียร์บอลด้วยการวิเคราะห์เกมและราคาต่อรองไปพร้อมกันกับแพลตฟอร์มเดิมพันกีฬาออนไลน์ที่ไว้ใจได้
สนุกกับทุกทัวร์นาเมนต์ระดับโลกไปพร้อมกับ แทงบอล ยูฟ่าเบท ที่ออกแบบมาสำหรับคอบอลตัวจริงอย่างคุณ
